ทริคสั่งของจากจีน

รวมศัพท์สำคัญเกี่ยวกับโลจิสติกส์นำเข้า: พื้นฐานที่ธุรกิจนำเข้าสินค้าจากจีนต้องรู้

รวมศัพท์สำคัญเกี่ยวกับโลจิสติกส์นำเข้า คือชุดคำศัพท์และแนวคิดพื้นฐานที่ช่วยให้ผู้ประกอบการไทยเข้าใจกระบวนการนำเข้าสินค้าจากจีนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในปี 2025 ที่การค้าออนไลน์และ e-commerce เติบโตอย่างรวดเร็ว การรู้จักศัพท์เหล่านี้จะช่วยลดความเสี่ยง ลดต้นทุน และเพิ่มความคล่องตัวในการทำธุรกิจ Shipify.co.th ผู้ให้บริการนำเข้าสินค้าจากจีนชั้นนำในไทย ช่วยจัดการโลจิสติกส์นำเข้าครบวงจร โดยฟรีค่าบริการฝากสั่ง ไม่มีขั้นต่ำในการสั่งซื้อ และสามารถออกใบกำกับภาษีได้ เพื่อให้ธุรกิจของคุณดำเนินไปอย่างราบรื่น 

บทความนี้จะรวบรวมศัพท์สำคัญเกี่ยวกับโลจิสติกส์นำเข้า โดยแบ่งเป็นหมวดหมู่ เพื่อให้ง่ายต่อการศึกษา ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือผู้ประกอบการที่มีประสบการณ์ เราจะอธิบายแต่ละคำพร้อมตัวอย่างการใช้งานจริงในการนำเข้าจากจีน พร้อมเคล็ดลับจาก Shipify เพื่อให้คุณนำไปใช้ได้ทันที

ศัพท์พื้นฐานในโลจิสติกส์นำเข้า: จากการสั่งซื้อถึงการขนส่ง

Supplier และ MOQ: คำศัพท์เริ่มต้นในการหาแหล่งสินค้า

ในโลจิสติกส์นำเข้า Supplier หมายถึงผู้ผลิตหรือผู้ขายสินค้าในจีน เช่น โรงงานบนแพลตฟอร์ม 1688 หรือ Taobao ซึ่งเป็นแหล่งหลักสำหรับสินค้าราคาถูก ขณะที่ MOQ (Minimum Order Quantity) คือปริมาณสั่งซื้อขั้นต่ำที่ผู้ขายกำหนด เพื่อให้ได้ราคาส่งที่ดีที่สุด สำหรับธุรกิจไทย การเลือก Supplier ที่มี MOQ ต่ำช่วยลดความเสี่ยงในการทดลองตลาด

ตัวอย่างศัพท์รองที่เกี่ยวข้อง:

  • OEM (Original Equipment Manufacturer): การผลิตสินค้าตามแบรนด์ของลูกค้า เช่น สั่งเสื้อผ้าจากจีนแล้วติดโลโก้ไทย
  • ODM (Original Design Manufacturer): ผู้ผลิตออกแบบสินค้าให้ เช่น สั่งเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์พิเศษจากเซินเจิ้น

Shipify ช่วยค้นหา Supplier คุณภาพผ่านบริการ Shipify x Bulkiee ซึ่งคัดโรงงานคะแนนสูงเพื่อลดต้นทุน 

Freight Forwarder และ Shipping Method: การจัดการขนส่งสินค้า

Freight Forwarder คือบริษัทตัวกลางที่จัดการโลจิสติกส์นำเข้า เช่น Shipify ซึ่งดูแลตั้งแต่การรับสินค้าจากจีน จัดการเอกสาร และขนส่งถึงไทย ขณะที่ Shipping Method หมายถึงวิธีการขนส่ง เช่น ทางเรือ สำหรับสินค้าปริมาณมาก ราคาถูกแต่ช้า (15-30 วัน) หรือทางรถ สำหรับสินค้าด่วน ราคาสูงแต่ถึงเร็ว (5-7 วัน)

รายการวิธีขนส่งยอดนิยม:

- ทางรถ 5-7 วัน

- ทางเรือ 14-20 วัน

ศัพท์เกี่ยวกับเอกสารและศุลกากรในโลจิสติกส์นำเข้า

Bill of Lading (B/L) และ Commercial Invoice: เอกสารหลักในการนำเข้า

Bill of Lading (B/L) คือเอกสารสิทธิ์ในสินค้าที่ออกโดยบริษัทขนส่ง ใช้เป็นหลักฐานในการรับสินค้าที่ท่าเรือไทย ขณะที่ Commercial Invoice คือใบแจ้งหนี้เชิงพาณิชย์ที่ระบุราคา จำนวน และรายละเอียดสินค้า เพื่อใช้คำนวณภาษีนำเข้า หากเอกสารไม่ครบ อาจเกิดความล่าช้าในโลจิสติกส์นำเข้า

เคล็ดลับจัดการเอกสาร:

  • Packing List: รายการบรรจุภัณฑ์ที่ระบุน้ำหนักและขนาดกล่อง เพื่อตรวจสอบสินค้า
  • Certificate of Origin (C/O): ใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า เพื่อลดภาษีตามข้อตกลง FTA ระหว่างไทย-จีน

Shipify จัดการเอกสารเหล่านี้ให้ฟรี เพื่อให้การนำเข้าสินค้าจากจีนราบรื่น 

Customs Clearance และ Tariff: การผ่านศุลกากรและภาษี

Customs Clearance คือกระบวนการผ่านด่านศุลกากรไทย โดยต้องยื่นเอกสารและชำระภาษีนำเข้า Tariff หมายถึงอัตราภาษีอากรนำเข้า เช่น VAT 7% สำหรับสินค้าทั่วไป บวกอากรตามประเภทสินค้า (เช่น 0-5% สำหรับสินค้าอุตสาหกรรม) หากไม่เข้าใจ Tariff อาจทำให้ต้นทุนสูงขึ้น

ประเภทภาษีนำเข้าที่พบบ่อย:

  1. VAT (Value Added Tax): 7% ของมูลค่าสินค้ารวมค่าขนส่งและประกัน
  2. Excise Tax: ภาษีสรรพสามิตสำหรับสินค้าฟุ่มเฟือย เช่น เครื่องสำอางหรือสุรา
  3. Anti-Dumping Duty: ภาษีป้องกันการทุ่มตลาดจากจีน สำหรับสินค้าบางประเภท

 

ศัพท์ขั้นสูงในโลจิสติกส์นำเข้า: Incoterms และ Supply Chain Management

Incoterms: กติกาการค้าสากลสำหรับนำเข้า

Incoterms (International Commercial Terms) คือชุดกติกาที่กำหนดความรับผิดชอบระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายในโลจิสติกส์นำเข้า เช่น:

  • FOB (Free On Board): ผู้ขายรับผิดชอบจนสินค้าขึ้นเรือ ผู้ซื้อจัดการขนส่งต่อ
  • CIF (Cost, Insurance and Freight): ผู้ขายจัดการค่าขนส่งและประกันจนถึงท่าเรือปลายทาง
  • EXW (Ex Works): ผู้ซื้อรับผิดชอบทุกอย่างตั้งแต่โรงงานผู้ขาย

สำหรับการนำเข้าจากจีน มือใหม่ควรเลือก CIF เพื่อลดความเสี่ยง 

Supply Chain Management และ Logistics Optimization

Supply Chain Management คือการจัดการห่วงโซ่อุปทานทั้งหมด ตั้งแต่ Supplier จนถึงลูกค้า ขณะที่ Logistics Optimization คือการปรับปรุงโลจิสติกส์นำเข้าให้มีประสิทธิภาพ เช่น การใช้เทคโนโลยีติดตามสินค้า real-time เพื่อลดเวลาขนส่ง

เทคนิค:

  • Just-in-Time (JIT): สั่งสินค้าให้ถึงพอดีกับความต้องการ ลดสต็อก
  • Third-Party Logistics (3PL): การใช้บริษัทภายนอกอย่าง Shipify จัดการโลจิสติกส์

 

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับศัพท์โลจิสติกส์นำเข้า

เพื่อให้เข้าใจรวมศัพท์สำคัญเกี่ยวกับโลจิสติกส์นำเข้าได้ดีขึ้น นี่คือ FAQ ยอดฮิต:

  1. Supplier คืออะไร? ผู้ผลิตหรือผู้ขายในจีนที่ให้สินค้าราคาส่ง
  2. MOQ สูงเกินไปทำอย่างไร? ใช้บริการ Shipify ที่ไม่มีขั้นต่ำในการนำเข้า
  3. Bill of Lading สำคัญอย่างไร? เป็นหลักฐานรับสินค้า หากสูญหายอาจเสียเงิน
  4. Tariff คำนวณยังไง? รวมมูลค่าสินค้า + ค่าขนส่ง + ประกัน แล้วคูณอัตราภาษี
  5. Incoterms แบบไหนเหมาะกับมือใหม่? CIF เพราะผู้ขายจัดการส่วนใหญ่

 

สรุป: รวมศัพท์สำคัญเกี่ยวกับโลจิสติกส์นำเข้า

สรุปแล้ว รวมศัพท์สำคัญเกี่ยวกับโลจิสติกส์นำเข้า คือเครื่องมือที่ช่วยให้ธุรกิจไทยนำเข้าสินค้าจากจีนได้อย่างมืออาชีพ ไม่ว่าจะเป็น Supplier, MOQ, Bill of Lading, หรือ Incoterms การเข้าใจศัพท์เหล่านี้จะลดความเสี่ยงและเพิ่มกำไร ในปี 2025 ที่โลจิสติกส์พัฒนาด้วยเทคโนโลยี Shipify คือพันธมิตรที่ดีในการจัดการทุกอย่าง

สั่งของจากจีน สินค้าจีน นำเข้าสินค้าจากจีน พรีออเดอร์จีน สั่งสินค้าจากจีน สั่งสินค้าจีน

วิธีใช้ Google Translate กับ 1688 ยังไงให้ได้ผล

ทำบัญชีร้านค้าเมื่อเริ่มนำเข้าสินค้าจีน ต้องทำอย่างไร

บทความและข่าวสารที่น่าสนใจ